21 มิ.ย. 2558

เปรียบเทียบระหว่างการเรียนสายสามัญกับการเรียนสายอาชีพ

เปรียบเทียบระหว่างการเรียนสายสามัญกับการเรียนสายอาชีพ
        ถ้าเปรียบเทียบหลักสูตรและจุดเด่นระหว่างสายสามัญและสายอาชีพ จะเห็นได้ว่าสายสามัญและสายอาชีพมีความแตกต่างกันอยู่หลายอย่าง การเรียนสายสามัญ คือ การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามกระทรวงศึกษาธิการกำหนด โดยให้ความสำคัญกับการจัดการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระ และสาระเพิ่มเติม เช่น กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมแนะแนว เป็นต้น  โดยการจัดการศึกษาสายสามัญ แบ่งออกเป็น
ระดับประถมศึกษาตอนต้น
ระดับประถมศึกษาตอนปลาย
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
        เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความสามารถทุกด้าน ตามลำดับขั้นและหลักสูตรของสถานศึกษา และหลักสูตรของกระทรวงศึกษากำหนดไว้ ว่าแต่ละระดับควรพัฒนาด้านใดบ้าง และเพิ่มเติมความรู้ ความสามารถในด้านใด

สำหรับสายสามัญในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจะมีการแบ่งชั้นเรียน เป็น
-สายวิทย์คณิต บางโรงเรียนก็จะมี วิทย์ปิโตรเลียม,วิทย์แพทย์,วิทย์-สถาปัตย,วิทย์ทั่วไป
-สายศิลป์คำนวณ
-สายศิลป์ภาษา เช่น อังกฤษจีน, อังกฤษฝรั่งเศส,อังกฤษเยอรมัน, อังกฤษญี่ปุ่น,อังกฤษสเปน
-สายศิลป์-ทั่วไป
        สำหรับแบ่งผู้เรียน เพื่อนำไปเป็นเกณฑ์คัดเลือกนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาต่อไป เนื่องจากในบางสาขาวิชาของมหาวิทยาลัยมีการกำหนดไว้ชัดเจนว่าให้สายการศึกษา สายใดเข้าศึกษาได้แต่สายอาชีพจะเป็นการศึกษาเฉพาะทางโดยเน้นให้ผู้เรียนที่จบการศึกษาสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประกอบอาชีพ หรือสมัครงานตามสาขานั้น ๆ ได้ ซึ่งถือว่าผู้ที่เรียนจบสาขาวิชานั้น ๆ เป็นผู้มีความรู้พื้นฐานสำหรับประกอบอาชีพนั้น ๆ ได้ เช่น
        หลักสูตร ปวช. คือ หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ เป็นระดับการฝึกวิชาชีพระดับพื้นฐานในงานสายอาชีพนั้น ๆ ซึ่งมีรู้สามารถนำไปประกอบอาชีพได้ตามความรู้ที่เรียน
หลักสูตร ปวส. คือ หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงเป็นระดับความรู้ที่สูงขึ้นจาก ปวช. โดยเน้นความรู้เฉพาะมากขึ้นมีความรู้ความชำนาญพิเศษมากขึ้น
สำหรับหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพและหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูงแบ่งการเรียนเป็นสาขา ดังนี้
สาขาวิชาอุตสาหกรรม
สาขาวิชาพาณิชยกรรม/บริหารธุรกิจ
สาขาวิชาศิลปกรรม
สาขาวิชาประมง
สาขาวิขาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
สาขาวิชาอุตสาหกรรมสิ่งทอ
สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

        การศึกษาระดับสายอาชีพสามารถศึกษาต่อได้ถึงระดับสูงสุดเท่ากับการศึกษาสายสามัญ คือ ระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก ซึ่งเป็นการพัฒนาการศึกษาตามลำดับขั้นสำหรับผู้สนใจศึกษาต่อระดับสูงขึ้นไปเพื่อยกระดับความรู้ความสามารถ นักเรียนที่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สามารถเลือกเรียนได้ทั้งสายสามัญและสายอาชีพปัจจัยที่ทำให้นักเรียนเลือกเรียนระหว่างสายสามัญและสายอาชีพ คือ
    1.ด้านสถานภาพส่วนตัวของนักเรียน ขนาดของครอบครัว การศึกษาสูงสุดของคนในครอบครัวและจำนวนพี่น้องร่วมบิดามารดา
    2.ด้านสถานภาพทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของครอบครัว มีตัวแปรที่สำคัญคือ รายได้ของครอบครัว ระดับการศึกษาของบิดามารดาและปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย
    3.ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
        นักเรียนสายสามัญเมื่อเรียนจบส่วนใหญ่ก็คิดที่อยากเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาทั้งนั้นแต่นักเรียนสาอาชีพบางคนก็อยากเรียนต่อ ปวส.แต่บางคนก็อาจจะอยากเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา จากการศึกษาความคาดหวังและโอกาสทางการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา   พบว่า ผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและได้ต่อระดับอุดมศึกษามีร้อยละ 85.4 เพศหญิงได้ศึกษาต่อมากกว่าเพศชายเล็กน้อย หลักสูตรสายสามัญได้ศึกษาต่อมากกว่าสายอาชีพ แผนการเรียนในหลักสูตรสายสามัญ แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ ได้ศึกษาต่อมากที่สุด รองลงมาคือ แผนการเรียนศิลป์-ภาษา ศิลป์-คำนวณและแผนการเรียนทั่วไป
        ส่วนประเภทวิชาในหลักสูตรสายอาชีพ ประเภทวิชาพาณิชย-กรรม/บริหารธุรกิจ ได้ศึกษาต่อมากที่สุด รองลงมาคือประเภทวิชาช่างอุตสาหกรรม  ศิลปหัตถกรรม/ศิลปกรรมและคหกรรม/คหกรรมศาสตร์  ผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรสายสามัญจะได้ศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาสังกัดทบวงมหาวิยาลัยเป็นส่วนใหญ่และผู้สำเร็จการศึกษาสายอาชีพจะได้ศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นส่วนใหญ่
        นอกจากนี้ผู้สำเร็จการศึกษาส่วนมากจะได้ศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาในภูมิภาคหรือที่ตั้งสถานศึกษาของตน ในการศึกษาแต่ละประเภทต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป
การเรียนสายสามัญ
ข้อดีของการเรียนสามัญ
        1. ความรู้พื้นฐานทั่วไป จะได้มากกว่าสายอาชีพ
        2. เลือกเรียนในมหาวิทยาลัยได้ทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเอกชนหรือรัฐ
        3. มีโอกาสเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ต่างประเทศหรือกิจกรรมอื่นๆได้มากกว่า (อยู่ที่ตัวเองและการสนับสนุนของโรงเรียน)
        4. สังคมแวดวงเพื่อน จะดีกว่า สายอาชีพ (โดยส่วนใหญ่นะ)
ข้อเสียของการเรียนสายสามัญ
        1. ความรู้เฉพาะด้านอาจไม่แน่นเท่าสายอาชีพ (ในบางกรณี)
        2. จบ ม.6 ถ้าไม่ต่อ ปริญญาตรี จะไม่มีความหมายเลย***เน้นๆ
        3.สายสามัญส่วนใหญ่จะไม่เจอวิชาชีวิต(ประสบการณ์ต่างๆ การเอาตัวรอด พบเจออะไรแย่ๆ)
เท่าสายอาชีพ(โดยส่วนใหญ่)
การเรียนสายอาชีพ
         ข้อดีของการเรียนสายอาชีพ
         1. ความรู้เฉพาะด้านแน่น ถ้าคนที่เลือกเรียนต่อในสาขาที่เรียนมา จะได้เปรียบกว่าสายสามัญ เมื่อเข้าไปเรียนในมหาลัย
         2. ถ้าไม่เรียนต่อ ก็ไม่เป็นไร สามารถทำงานได้เลย แถมยังไปสอบราชการก็ได้อีกด้วย
         ข้อเสียการเรียนสายอาชีพ
         1.มีข้อจำกัดในการต่อมหาลัย เพราะมหาลัยรัฐหลายที่หลายคณะที่เขาไม่รับเด็กสายอาชีพ
ถ้าเป็นเอกชนก็แล้วไป
         2. สังคมสายอาชีพไม่ค่อยดี เด็กเกเร เสียส่วนใหญ่ (ไม่ได้เป็นเด็กเกเรทุกคน)


3 ความคิดเห็น:

  1. สายอาชีพ จบออกมาแล้วได้งานทำไม่ตกงานแน่นอน (สายอาชีพส่วนใหญ่เด็กดีก็เยอะน่ะครับ....)

    ตอบลบ
  2. สายอาชีพ จบออกมาแล้วได้งานทำไม่ตกงานแน่นอน (สายอาชีพส่วนใหญ่เด็กดีก็เยอะน่ะครับ....)

    ตอบลบ
  3. มีเเต่คนมองสายอาชีพเปนเด็กไม่ดีทั้งนั้น เสียไจคั้บ

    ตอบลบ